5 ข้อสัมผัสรู้ เกม แมนฯยูฯ พลิกเชือด เชลซี
ทำประสบความสำเร็จจนได้สำหรับสมาชิกของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขากลับกันมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขาเก่งแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ได้อีกครั้งด้วย
แบบก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงเค้าความเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังกล่าวครับผม
5. วิลเลียน ขโมยซีน
แม้กระนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นอย่างเอาชนะไปได้ 2-1 ในคืนที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอาปราบปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ หรือไม่ก็แม้แต่เอเด็น อาซาร์
ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ เก่าเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนลุ่ยกับดักล้ำหน้าพร้อมกับกลายเป็นประตูในที่สุด
การเล่นอย่างเฉียบแหลมพร้อมทั้งความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่ตอนบังเอิญ โดยเฉพาะเจาะจงแฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด
4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที
ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ประกบสัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง เกี่ยวเนื่องมาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว
นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย
เขาควรกล่าวโทษว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้แต่กลับทีมที่อ่อนกว่า และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นปางแค่การลบสถิติออกเท่านั้น เท่านั้นยังเป็นการแสดงให้เห็นให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน กับคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง
3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ
ดรุณผู้เป็นพืชผลของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันเป็นยอดอยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด
ซึ่งน่ากลัวของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับสถานะเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันพร้อมทั้งเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักฟุตบอลเหล่านี้แหละที่จะมาทับขั้นเขา
อย่างใดก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นพิสัยทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางกับแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ
2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว
เมื่อก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก
ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร เมื่อก่อนนี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สพร้อมทั้งนิวคาสเซิล กลายร่างเดินทางที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทั้งหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น
ความชนะในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน พร้อมทั้งแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้นเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน เติมให้สิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ
1. สัญญาณของมิตรภาพ
อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มประสานงาคารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วพร้อมกับยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย
โดยตรงตัวเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา
แต่เขาทั้งหลายก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ